A reverse mortgage คือเงินกู้ชนิดพิเศษอีกแบบหนึ่งที่ใช้โดยผู้สูงอายุชาวอเมริกัน โดยกลับมูลค่าของบ้าน (equity)ที่มีอยู่มาเป็นเงินสด เพื่อว่าเงินจำนวนนี้ผู้สูงอายุจะนำไปใช้จ่ายได้ในยามเกษียณจากงาน ซึ่ง Equity ของบ้านมีวิธีคำนวณโดยนำราคาบ้านในปัจจุบันเป็นตัวตั้งและนำยอดหนี้ของบ้านที่ยังค้างธนาคารไปลบออก ก็จะทราบมูลค่าบ้านของคุณในขณะนั้น
ส่วนคำว่า reversed ก็ตรงกันข้ามอยู่แล้วกล่าวคือแทนที่เราจะจ่ายเงินแก่ธนาคารหรือผู้ให้กู้เป็นรายเดือนเหมือนเช่นจ่ายค่าผ่อนบ้านหรือไปกู้เงินโดยเอาเงินออกจากมูลค่าบ้าน (home equity loan) แต่ธนาคารกลับเป็นผู้จ่ายเงินให้คุณ ซึ่งคุณก็ยังเป็นเจ้าของบ้านและถือโฉนดอยู่เหมือนเดิม
เงินที่ได้จาก a reverse mortgage นี้นำไปใช้จ่ายได้ทุกอย่างที่คุณต้องการ เช่นรายจ่ายในชีวิตประจำวัน นำไปซ่อมแซมบ้าน จ่ายค่ารักษาพยาบาล จ่ายค่ายารักษาโรค จ่ายหนี้ที่ยังเหลืออยู่ จะนำไปใช้จ่ายท่องเที่ยว ป้องกันบ้านถูกยึดหรืออื่นๆที่จำเป็นต้องใช้ หากบ้านของคุณต้องการซ่อมแซม ธนาคารก็จะแยกส่วนนี้ออกไว้ต่างหาก
เงื่อนไขก็คือคุณจะทำ a reverse mortgage ได้ต้องมีอายุอย่างน้อย 62 ปี และคุณต้องเป็นเจ้าของบ้านเอง คุณไม่จำเป็นต้องแสดงรายได้หรือไม่ต้องตรวจสุขภาพประกอบยื่นเรื่อง แม้กระทั่งคุณยังเป็นหนี้ a first หรือ second mortgage คุณก็มีคุณสมบัติ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้สูงอายุมักจะนำ a reverse mortgage มาจ่าย pay off เงินกู้ซื้อบ้านที่ยังติดค้างอยู่
อย่างไรก็ตามเมื่อต้องการเงินคุณมีทางเลือกดังนี้ รับไปครั้งเดียวเป็นก้อน (lump sum) หรือจะรับเป็นรายเดือน(ตลอดจนสิ้นชีวิต) จะรับเป็นแบบ a line of credit หรือรับแบบรวมกันก็ได้ ส่วนใหญ่ประมาณ 60 % มักจะรับแบบ line of credit สามารถเบิกมาใช้เมื่อไรก็ได้ตามที่ต้องการ ท่านสามารถทำพินัยกรรมยกให้ผู้สืบทอดมรดกได้หรือให้ผู้รับมรดกซื้อบ้านคืนได้เช่นกัน
ขนาดของ reverse mortgage ที่จะได้รับก็ขึ้นอยู่กับอายุของคุณในระหว่างการยื่นแอพพลาย ลักษณะของreverse mortgage ที่คุณเลือก,มูลค่าบ้าน,อัตราดอกเบี้ยในช่วงยื่นแอพพลาย และยังพิจารณาว่าคุณอาศัยอยู่เขตไหน( location)
การพิจารณา a reverse mortgage จะต้องมีค่าธรรมเนียมการดำเนินการ(origination fee)รายการนี้จะเสียประมาณ 2 % ของมูลค่า reverse mortgage ที่จะได้ เช่นบ้านราคา 290,319 ดอลลาร์จะต้องเสียค่า origination fee 5,806ดอลลาร์เป็นต้น ค่าตีราคาบ้าน (an appraisal fee) ค่าประกันภัยและค่าอื่นๆเช่นค่า closing costs เหมือนกับที่เรานำบ้านไปrefinance
นอกจากนี้คุณไม่ต้องเสียภาษี ไม่มีผลต่อเงิน Social Security หรือการรักษาพยาบาล (Medicare benefits) แต่จะมีผลกระทบต่อเงินช่วยด้านรักษาพยาบาล (Medicaid)รวมทั้งโปรแกรมต่างๆที่รัฐจัดช่วยเหลือ ดังนั้นก่อนจะทำ a reverse mortgage จะต้องศึกษารายละเอียดและต้องใช้ที่ปรึกษา(counselor)ก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น