รณพงศ์ คำนวณทิพย์เครือข่ายชุมชนออนไลน์ (Social Network) อย่าง facebook, twitter, myspace และอื่นๆ ยังคงมาแรงแซงโค้งการสื่อสารในรูปแบบอื่นๆ เพราะมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว facebook ใช้เวลาเพียง 5 ปีในการสร้างชุมชนที่มีประชากร 250 ล้านคน
เครือข่ายเหล่านี้จึงเป็นที่จับตามองของนักธุรกิจการตลาดทั้งหลายเพราะถือว่าเป็นช่องทางการสื่อสารอันทรงพลังที่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีครับ
ด้วยเหตุนี้เครือข่ายชุมชนออนไลน์จึงสามารถจับกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนโลกได้อย่างรวดเร็ว ในลักษณะแบบผึ้งแตกรัง หรือที่เรียกว่า Buzz นั่นเองครับ ยกตัวอย่างเช่น การจากไปแบบกะทันหันของ Stephen Gately สมาชิกวง Boyzone เมื่อเร็วๆ นี้นั้น ผมได้รับทราบข่าวนี้จากชุมชนใน twitter ก่อนที่จะได้รับข่าวอย่างเป็นทางการเสียอีก และเพียงอีกไม่กี่นาทีต่อมาชื่อของเขาและคำว่า “Boyzone” ก็ได้กลายเป็น Trending Topics (หรือเรื่องที่กำลังมาแรง) ใน twitter ขึ้นมาทันที ขณะที่ search box ในกูเกิลยังคงแนะนำหัวข้อในการ search ตามปกติไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด
หัวใจสำคัญที่ทำให้เครือข่ายชุมชนออนไลน์ทรงอิทธิพลและมีความรวดเร็วมากขนาดนี้ก็เพราะมันเป็น user-generated content หรือข้อมูลที่ผู้บริโภคส่งเข้ามาเองครับ ลองคิดดูสิครับว่าระหว่างจำนวนแบรนด์ทั้งหลายหรือจำนวนสำนักข่าวทั้งหลาย เมื่อเทียบกับจำนวนผู้บริโภคทั้งโลกรวมกันนั้นอย่างไหนจะมีมากกว่ากันกี่เท่า?
เมื่อเร็วนี้ก็มีปรากฏการณ์สำคัญของชาว Twitter ในบ้านเรา ซึ่งเรียกว่า “ปรากฏการณ์วาวี” นั่นคือการรวมตัวของ “ชาว Twitter” หรือ “เหล่า Tweeple” ทั้งหลาย ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งชื่อ “วาวี” นับเป็น Buzz Marketing หรือ การตลาดแบบผึ้งแตกรังที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเพราะมีการทวีตถึงคำว่า “Wawee” นับพันครั้งในเวลาเพียงไม่ถึงสองวัน และมีผู้ใช้ทวิตเตอร์มารวมตัวกันเกือบร้อยคนเลยทีเดียว (จาก www.mkttwit.com โดย @worawisut)
อีกปรากฏการณ์หนึ่งก็คือ “Web Wednesday” ซึ่งเป็นการรวมตัวของชาวเว็บและสื่อใหม่ (new media) ทั้งหลายโดยการนัดรวมพลผ่านทางสื่ออย่าง facebook และ twitter จากจุดเริ่มต้นของคนสองสามคน ครั้งล่าสุดที่ butter butter นั้นมีผู้เข้าร่วมงานหลายร้อยคนจนมีผู้ให้การสนับสนุนในด้านสถานที่อาหารเครื่องดื่มและของแจกต่างๆ โดยไม่มีการโฆษณาเข้ามาเกี่ยวข้อง
ปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของ Buzz Marketing ก็คือคำว่า “Social Network” ของคนที่มีความสนใจและมีความสมัครใจที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ใช่ “Commercial Network” ที่เป็นเครือข่ายที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ทางการค้าครับ
ในยุคของผู้บริโภคที่รู้เท่าทัน (Consumer-in-the-know) ของเครือข่ายชุมชนออนไลน์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่นักการตลาดจะทำการสร้างภาพหรือยัดเยียดการขายสินค้าให้ผู้บริโภคอีกต่อไป…
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น